รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายและเกลียวคลื่นสวยงาม
แต่การศึกษาใหม่พบว่า แนวชายฝั่งที่มีชื่อเสียงของรัฐนี้อาจหายไปในอนาคต โดยมีผลการประเมินออกมาว่า พื้นที่ราว 25-70% ของชายหาดแคลิฟอร์เนีย อาจถูกกลืนหายไปภายในสิ้นศตวรรษนี้จากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น เหลือเพียงหน้าผาหรือโครงสร้างพื้นฐานริมชายฝั่งเท่านั้น
นักวิจัยจากหน่วยสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ใช้ข้อมูลดาวเทียมที่รวบรวมในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อศึกษาชายฝั่งยาวกว่า 1,700 กิโลเมตรของรัฐแคลิฟอร์เนีย แล้วนำไปวิเคราะห์ร่วมกับแบบจำลองการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ตั้งแต่ 0.5-3 เมตร เพื่อประเมินสถานการณ์แนวชายฝั่งของแคลิฟอร์เนียภายในปี 2100
พบ “วาฬเบลูกา” ที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็น “สายลับรัสเซีย”
อีก 20 ปีข้างหน้า เราอาจมองไม่เห็นดาวบนท้องฟ้าอีกต่อไป
พบสิ่งมีชีวิตใหม่กว่า 5,000 สายพันธุ์ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก
การศึกษานี้เป็นการต่อยอดจากการศึกษาก่อนหน้านี้ในปี 2017 ที่ดำเนินการโดยนักวิจัยกลุ่มเดียวกัน ซึ่งมุ่งเน้นไปที่อัตราการกัดเซาะชายฝั่งในแคลิฟอร์เนียตอนใต้ การศึกษาดังกล่าวพบว่า ชายหาดทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียระหว่าง 31-67% มีความเสี่ยงต่อการหายไป
ฌอน วิทูเซ็ก หัวหน้าทีมวิจัยการศึกษาทั้งสองชิ้น กล่าวว่า “ชายหาดอาจเป็นลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของแคลิฟอร์เนีย และศักยภาพในการสูญเสียเอกลักษณ์นี้เป็นเรื่องจริง”
เขาเสริมว่า “การสูญเสียแนวป้องกันของหาดทรายที่กั้นระหว่างเรากับคลื่นกระทบฝั่ง จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ธุรกิจ และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ชายหาดเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติ และมีแนวโน้มว่าความพยายามในการจัดการของมนุษย์จะต้องเพิ่มขึ้นเพื่อรักษามันไว้”
คณะกรรมาธิการชายฝั่งแคลิฟอร์เนียได้สนับสนุนให้เมืองต่าง ๆ เสริมแนวชายฝั่งให้แข็งแรง โดยการสร้างกำแพงกันน้ำทะเลหรือวางหินก้อนใหญ่ที่สามารถช่วยป้องกันชายฝั่งจากคลื่นซัด รวมถึงการฟื้นฟูเนินทรายตามธรรมชาติก็สามารถช่วยปกป้องชายหาดได้เช่นกัน
การศึกษายังชี้ให้เห็นว่า หลายพื้นที่มีความเสี่ยงต่อการกัดเซาะรุนแรงเป็นพิเศษ เช่น พอยต์อารีนา (Point Arena) และฮัมโบลต์เบย์ (Humboldt Bay) ทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย, พิสโมบีช (Pismo Beach) และมอร์โรเบย์ (Morro Bay) ทางตอนกลางของรัฐ และนิวพอร์ตบีช (Newport Beach) และซานเคลมองต์ (San Clemente) ทางตอนใต้
การสูญเสียพื้นที่ชายหาดยังอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลด้วย การศึกษาแสดงให้เห็นว่า เมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้นราว 1 เมตร เทศมณฑลซานดิเอโกจะสูญเสียพื้นที่ปิกนิกไป 1 ใน 4 ครึ่งหนึ่งของหอคอยไลฟ์การ์ดจะหายไป สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อประชากรกลุ่มชายขอบที่มีรายได้น้อยมากที่สุด
วิทูเซ็กกล่าวสรุปว่า ความพยายามในการจัดการอย่างมาก เช่น การฟื้นฟูเนินทราย จำเป็นต่อการรักษาชายหาดให้คงอยู่ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน “นี่เป็นกระบวนการที่ช้าเมื่อเราพูดถึงปี 2100 แต่ก็ไม่ได้ช้าขนาดนั้น”
ด้าน มาร์ก เมอร์ริฟิลด์ นักสมุทรศาสตร์ชายฝั่งจากสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปป์ส กล่าวว่า การศึกษาครั้งใหม่นี้เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ข้อมูลแนวชายฝั่งที่ได้จากดาวเทียมในการวิเคราะห์ลักษณะนี้ แต่เขาเตือนว่า การคาดการณ์ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก และต้องมีการศึกษาโดยละเอียดต่อไป
เรียบเรียงจาก The Guardianคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ภาพจาก Getty Image