เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ รร.ศิวา รอยัล จ.พัทลุง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้า จะมีปัญหาแน่นอน โดยไม่ใช่การคาดคะเนใด ๆ เพราะเศรษฐกิจโลกยังมีปัญหา ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สหรัฐ ได้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจดูแลประเทศตนเองเป็นหลัก โดยขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสะกัดเงินเฟ้อ ซึ่งสหรัฐอาจรอด เพราะขณะนี้ดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ที่ 3.75% แต่ดอกเบี้ยไทยไม่ถึง 1% หากไทยไม่เข้มแข็งพอ จะทำให้เงินไหลออกนอกประเทศ ที่สำคัญขอเตือนว่า อย่าไปต่อสู้ค่าเงินแบบญี่ปุ่นที่สูญเสียเงินสำรองจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าค่าเงินเยนเวลานี้กลับมาอ่อนค่าเหมือนเดิม
ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ต้องประเมินและกล้าตัดสินใจว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเท่าใด หลังสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย เพราะตามข้อเท็จจริง คนจนในปัจจุบันไม่ได้สินเชื่ออยู่แล้ว มีแต่รายใหญ่ที่มาขอกู้เงิน ที่สำคัญปัญหาไม่อยู่ที่ดอกเบี้ยเท่านั้น แต่อยู่ที่ความเชื่อมั่นว่าประเทศนี้ยังสามารถลงทุนได้หรือไม่ โดยผู้ว่า ธปทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จำเป็นต้องเรียกนายแบงก์มาคุยเพื่อขอความร่วมมือ ไม่ใช่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่เท่าไหร่ บรรดาแบงก์พาณิชย์ก็ขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้กันแล้ว และให้ปล่อยกู้ธุรกิจเอสเอ็มอีด้วย
นายสมคิด กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า เวลานี้ ธปท.มีอำนาจมหาศาล แต่ไม่มีบารมีเพียงพอ ขอให้ลองฟันทีเดียว รับรองได้บารมีเกิดขึ้นแน่ โดยตัวเองของให้กำลังใจผู้ว่า ธปท.เต็มที่ ถ้าต้องขึ้นดอกเบี้ยก็ต้องขึ้น แต่ต้องหาทางป้องกันไว้ด้วย ขณะเดียวกันก็ขอให้กำลังใจกับนายกรัฐมนตรี เพราะตอนนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ออกมาเตือนชัดเจนแล้วว่า ปีหน้าถดถอยแน่ คนตัวเล็กย่อมเจอปัญหาแน่นอน ดังนั้นจึงขอให้นายกฯ เรียกบรรดาธนาคารเฉพาะกิจมาคุย และอย่าไปจับผิดเรื่องหนี้เสีย เพราะเป็นเรื่องช่วยคนตัวเล็ก ถ้าธนาคารเฉพาะกิจขาดทุนแทนที่รัฐบาลจะนำเงินไปซื้อเรือดำน้ำ ให้นำเงินมาเพิ่มทุนให้กับแบงก์เหล่านี้ เพราะถ้าไม่คิดนอกกรอบ รับรองได้ว่าคนจนตายแน่
นอกจากนี้ถ้าเศรษฐกิจโลกถดถอย การส่งออกก็ตาย และสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ยังทำท่าบานปลาย ดังนั้นจึงขอให้แบงก์พาณิชย์และแบงก์รัฐเตรียมเงินไว้ 200,000-300,000 ล้านบาท เพราะรัฐจำเป็นต้องกู้เงิน แต่ขออย่ากู้แล้วนำไปใช้ในโครงการใหญ่ให้แต่ให้นำเงินมาลงรากหญ้า เพื่อให้เงินหมุนเวียนและชาวบ้านไม่อดตาย ซึ่งการที่เศรษฐกิจโลกถดถอย ประเทศอื่นทั่วโลกจะได้รับผลกระทบหมด แต่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าจะเตรียมตัวให้พร้อมอย่างไร ทุกรัฐบาลต้องเตรียมเอาไว้และประมาทไม่ได้ ขอให้เตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ เพราะถ้าถึงเวลาแล้วไม่เตรียมจะคิดอะไรไม่ออก
“เวลานี้ไม่ควรจะมีความขัดแย้ง ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากันและหาวิธีการ เพื่อขับเคลื่อนให้ได้ ส่วนจำเป็นต้องตั้งวอร์มรูมเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกถดถอยหรือไม่ ที่จริงแล้วรัฐบาลมี ครม.เศรษฐกิจ นายกฯ สามารถเรียกประชุมได้ทุกเมื่อ แต่ต้องนำคนที่รู้เรื่องจริงจังและจริงใจเข้ามาดูและประเมินว่าสถานะเป็นอย่างไร ขอย้ำว่าความจริงใจและข้อเท็จจริงเป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่เวลาที่จะคิดแต่เรื่องเลือกตั้ง เพราะกว่าจะเลือกตั้งก็กลางปีหน้า เวลานี้ให้ผ่านไปถึงกลางปีให้ได้ก่อน อย่าให้ประชาชนต้องลำบาก เพราะก่อนมีการเลือกตั้ง ถ้าหากเศรษฐกิจทรุดจะสร้างปัญหาอีกหลายด้าน
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 3 เศรษฐกิจของ เวียดนามขยายตัวถึง 13% และมีการลงทุนที่สำคัญย้ายฐานเข้าเวียดนาม เพราะการเมืองของเวียดนามไม่มีความขัดแย้ง ไม่แบ่งขั้ว ซึ่งขนาดเศรษฐกิจของเวียดนามในเวลานี้ถือเป็น 2 ใน 3 ของไทย แต่ในอีก 5 ปีข้างหน้า เศรษฐกิจของเวียดนามอาจแซงไทยได้ เพราะในช่วงเวลาเดียวกันนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ไม่ถึง 2% และยังมีความขัดแย้งทางการเมืองอีก ซึ่งคนไทยสามารถทำใจได้มากน้อยเพียงใด และคนไทยปล่อยให้บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร โดยปัจจุบันจีดีพีไทยอยู่ที่ 16 ล้านล้านบาท หากมีรัฐบาลและมีผู้นำที่ดี จะสามารถทำให้เติบโตได้ถึง 20 ล้านล้านบาทได้แน่ แต่หากไม่มีผู้นำที่ดี จีดีพีไทยก็จะค่อย ๆ หดตัวลงไป